April 28, 2020

ทำไมนักหมากรุกหลายคนถึงชนะใน WSOP

By kom

ทำไมนักหมากรุกหลายคนถึงชนะใน WSOP

ชัยชนะของนักแข่งหมากรุก Arkadiy Tsinis ในงาน WSOP เป็นการตอกย้ำถึงเทรนด์ใหม่ที่กำลังมาแรงในช่วงไม่กี่ปีนี้ : นักหมากรุกเป็นนักโป๊กเกอร์ที่เก่ง

ด้วยจำนวนนักเล่นหมากรุกที่เปลี่ยนมาเล่นโป๊กเกอร์แล้วประสบความสำเร็จมีมากขึ้น จึงไม่แปลกใจที่เราจะเจอนักหมากรุกในวงไพ่ แถมยังมีพวกที่เลิกเล่นหมากรุกและมาเล่นโป๊กเกอร์เต็มตัวมากขึ้นเรื่อยๆ

Ylon Schwartz ใช้เวลาเป็นพันๆ ชั่วโมงเพื่อศึกษาหมากรุก ก่อนมาจริงจังกับวิธีเล่นโป๊กเกอร์ และโป๊กเกอร์นี่แหละที่ออกผลให้เขาถึง $3.89 ล้าน ใน WSOP ปี 2008 Main Event

Schwartz เพื่อนซี้ของ Arkady Tsinis ผู้ซึ่งชนะที่หนึ่ง
Schwartz เองเป็นตัวพิสูจน์ถึงโอกาสในวงการโป๊กเกอร์ที่มีต่อนักหมากรุกผู้มีฝีมือ

ชีวิตหมากรุกไม่เจ๋งเลยเมื่อมาเทียบกับโป๊กเกอร์

ทุกวิธีในการเล่นโป๊กเกอร์ช่วยให้คุณชนะ - KaKa Minh - Medium

สิ่งที่แตกต่างกันไม่กี่อย่างคือกุญแจที่ทำให้เกิดการย้ายสายนี้ และกุญแจที่สำคัญที่สุดคือ จำนวนเงินมากมายที่สามารถจับต้องได้

“คุณจะไม่มีทางจะเป็นนักหมากรุกที่มีชีวิตดีๆ ได้เลย ยกเว้นเสียแต่ว่าคุณเป็น 1 ใน 20 คนที่เก่งที่สุดในโลก” Schwartz กล่าวกับ PokerListings ในฐานะผู้เล่นโต๊ะสุดท้าย ระหว่างที่เพื่อนของเขา Tsinis ให้สัมภาษณ์ในฐานะแชมป์กับ ESPN

“ถ้าเป็นโป๊กเกอร์ คุณโชคดีแล้วชนะแค่ทัวร์นาเมนท์เดียว คุณก็เป็นเศรษฐีเงินล้านแล้ว” เขาพูดไว้

ด้วยตอนนี้ที่ออนไลน์โป๊กเกอร์สามารถเล่นได้เกือบทั่วโลก และเริ่มเข้าถึงไลฟ์ทัวร์นาเมนท์ได้ทุกระดับ
โป๊กเกอร์ได้ข้ามหัวหมากรุกอย่างไม่เห็นฝุ่นในเรื่องโอกาสการทำเงิน

ข้อที่สอง ซึ่งอาจจะเป็นข้อสำคัญพอๆ กัน คือ การเริ่มต้นเล่นโป๊กเกอร์นั้น พื้นฐานการเล่นหมากรุกมีส่วยช่วยอย่างมากมายมหาศาล

“การเปลี่ยนจากหมากรุกมาเป็นโป๊กเกอร์นั้นง่ายมาก เพราะหมากรุกยากแบบไม่มีที่สิ้นสุด” Schwartz บอก

“คุณถูกฝึกให้นั่ง และถูกฝึกให้ศึกษากลยุทธ และถูกฝึกให้จดจำ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ใช้ในโป๊กเกอร์” เขากล่าว

ในขณะที่หมากรุกเป็นเวทีที่ดูสูงส่ง แต่ไม่ได้ช่วยให้มีเงินค่าข้าว

“มันก็ดูไม่น่าเกลียดอะไรถ้าคุณเป็นนักหมากรุกถังแตกช่วงอายุ 20 แต่ถ้าคุณอายุ 30 แล้ว ยังไงคุณก็ต้องเปลี่ยน” Schwartz พูด

“และเมื่อมีนักหมากรุกที่ท้อและจิตตกมากขึ้น พวกเขาก็จะไม่มีทางเลือกอื่น และเปลี่ยนมาเล่นโป๊กเกอร์เหมือนกับผมนั่นล่ะ”